เต้น ออกกำลังกาย แบบไหนช่วยลดน้ำหนัก

Share : facebook_share google_share
line_share
twitter_share messenger_share

เต้น ออกกำลังกาย แบบไหนช่วยลดน้ำหนัก

เต้น ออกกำลังกาย แบบไหนช่วยลดน้ำหนัก



ทุกครั้งที่คุณเต้นเวลาไปปาร์ตี้รู้ไหมคะว่าทำให้น้ำหนักลดลงได้ แล้วถ้าได้เต้น ออกกำลังกาย เป็นจริงเป็นจังน้ำหนักคงลดฮวบได้แน่ แต่จะมีการเต้น ออกกำลังกาย แบบไหนบ้าง มาดูกันค่ะ

 

1. ออกสเตปเบา ๆ ก็เผาผลาญได้

     มีบทความวิชาการทางสุขภาพจาก Harvard Medical School สหรัฐอเมริกา ระบุว่าเมื่อคนเราทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เป็นเวลา 30 นาที จะสามารถเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้ ส่วนจะเบิร์นได้มาก หรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวของแต่ละคน

     ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมที่มีข้อมูลน่าสนใจก็คือ "การเต้น ออกกำลังกาย" ซึ่งสามารถช่วยให้คุณเบิร์นไขมันส่วนเกินได้ตั้งแต่ 90-266 แคลอรี่ เลยทีเดียว แบ่งเป็นการเต้นแบบเบา แบบกลาง และแบบสนุกสุดเหวี่ยง ซึ่งอย่างหลังก็จะเผาผลาญได้มากกว่าสองอย่างแรก

 

2. ทำไมสายเฮลตี้ชอบเข้าคลาสเต้น ออกกำลังกาย ?

     ผศ.ดร.นพ.ภาสกร วัธนธาดา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การกีฬา และการวิเคราะห์การเคลื่อนไหว เคยอธิบายไว้ในบทความวิชาการว่า การ ออกกำลังกาย เป็นเรื่องที่ง่าย แต่การ ออกกำลังกาย ให้สม่ำเสมอเป็นเรื่องที่ยาก มีข้อมูลยืนยันว่า ผู้ที่เริ่ม ออกกำลังกาย จะหยุด ออกกำลังกาย กลางคันมากที่สุดในช่วง 2 เดือนแรก เมื่อครบ 6 เดือนจะพบว่า มีผู้หยุด ออกกำลังกาย ประมาณ 50% ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่าง เช่น

- ทัศนคติต่อการ ออกกำลังกาย ของคู่ครอง : ถ้าแฟนชอบ ออกกำลังกาย เราจะชอบไปด้วย แต่ถ้าแฟนไม่ชอบก็มีส่วนทำให้เราขี้เกียจไป ออกกำลังกาย

- ขาดเพื่อนไปด้วย : สิ่งที่สามารถจูงใจทำให้มีการ ออกกำลังกาย สม่ำเสมอขึ้น คือ กลุ่มเพื่อนฝูงที่ ออกกำลังกาย ด้วยกันเป็นประจำ ถ้าคุณไม่มีเพื่อนไป ออกกำลังกาย คุณก็จะขี้เกียจ และหยุด ออกกำลังกาย ในที่สุด

- ขาดความท้าทาย : ถ้าไม่มีเป้าหมาย หรือไม่มีความท้าทายในการ ออกกำลังกาย คนส่วนใหญ่จะไม่อยากไป ในทางกลับกัน คนที่มีเป้าหมาย เช่น อยากไปแข่งกีฬากับเพื่อน หรืออยากไปลดน้ำหนัก ก็จะรู้สึกอยาก ออกกำลังกาย มากกว่าคนที่ไม่มีเป้าหมาย

     และอีกหนึ่งเหตุผลของบางคน อาจจะเกิดอาการ "เบื่อ" วิธี ออกกำลังกาย แบบเดิม ๆ ขาดแรงบันดาลใจที่จะไป ออกกำลังกาย เป็นประจำ แต่พอมีการเต้นเริ่มเข้ามามีบทบาทต่อสังคมของกลุ่มคน ออกกำลังกาย และพวกเขารู้สึกว่าช่วยเพิ่มความสนุกสนานให้การ ออกกำลังกาย ได้ยาวนานขึ้น คงไม่ผิดนัก ถ้าจะพูดว่าหนุ่มสาวสายเฮลตี้สมัยนี้สนใจมาเต้น ออกกำลังกาย กันมากขึ้นเพราะมันสนุก และไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

 

3. การเต้นช่วยให้สุขภาพดี

     ผศ.ดร.นพ.ภาสกร วัธนธาดา ยังบอกอีกว่า การเต้น เช่น เต้นแอโรบิก เป็นการ ออกกำลังกาย ที่ใช้การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อทั้งตัว มีข้อดีคือ ใช้กล้ามเนื้อทั่วร่างกาย มีแรงกระแทกเล็กน้อย แต่ถ้า ออกกำลังกาย ด้วยการเต้น สเตปแอโรบิก ( Step aerobic ) พบว่ามีแรงกระแทกมากขึ้น เพราะเป็นการเต้นลงน้ำหนักเท้าบนแผ่นพลาสติกที่หนุนสูงขึ้นจากพื้น จึงควรระวังอย่าเต้นด้วยเพลงที่มีจังหวะเร็วเกินไป เพราะมีความเสี่ยงต่อการล้มได้

     สิ่งสำคัญมากอย่างหนึ่ง คือ การเต้นแอโรบิคควรสนใจสภาพร่างกายตัวเองเป็นหลัก เพราะการเต้นเป็นกลุ่มใหญ่ ย่อมมีผู้ที่มีความฟิตที่ต่างกัน โดยเฉพาะถ้าเลือกเพลงที่มีจังหวะเร็ว และสนุก ท่าเต้นที่รวดเร็ว และใช้พลังงานสูง ซึ่งอาจไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่ฟิต หากเต้นต่อเนื่องนาน ๆ อาจเป็นลมได้ และยังมีแนะนำว่า ถ้าจะ ออกกำลังกาย ด้วยการเต้น ให้เต้นอย่างน้อย 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ก็ได้ประโยชน์แล้ว ไม่ต้องหักโหมมาก แต่เน้นทำเป็นประจำจะดีที่สุด

 

     นอกจากนี้การเต้นยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีก ได้แก่

คลายเครียด : การเต้นแทงโก้ช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น มีงานวิจัยที่ถูกเผยแพร่ใน Journal of Applied Gerontology พบว่าการเต้นรำแบบคู่พร้อมกับเปิดเพลงคลอไปด้วยสามารถช่วยคลายเครียดได้

ลดอาการซึมเศร้า : มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งได้ทดสอบผลของการเต้นกับคนที่เป็นโรคซึมเศร้า โดยให้ผู้ป่วยเข้าร่วมกลุ่มเต้นแนว Upbeat พบว่าผู้ป่วยมีอาการของโรคซึมเศร้าน้อยลง และมีชีวิตชีวามากขึ้น

ช่วยให้ความจำดีขึ้น : การเต้นอาจช่วยให้ความจำดีขึ้น และป้องกันโรคสมองเสื่อมเมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เผยว่า การออกกำลังกายแบบแอโรบิคสามารถช่วยลดการสูญเสียมวลของฮิปโปแคมปัส ซึ่งเป็นสมองส่วนที่ควบคุมความจำ

ช่วยให้กระปรี้กระเปร่า : การไปเต้นทุกสัปดาห์สามารถช่วยให้มีสมรรถภาพทางกายดีขึ้น และทำให้ระดับพลังงานเพิ่มขึ้น รู้สึกกระปรี้กระเปร่า และพร้อมที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยความกระตือรือร้น

ทรงตัวดีขึ้น : การเต้นแทงโก้สามารถช่วยให้การทรงตัวดีขึ้น เพราะการเต้นจำเป็นต้องใช้การเคลื่อนไหวแบบรวดเร็ว และการมีท่าทางที่ดี ดังนั้นการเต้นเป็นประจำจึงช่วยให้ร่างกายมีเสถียรภาพ และมีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น

 

4. เต้นสนุกสุดมัน "ลดน้ำหนัก" ได้จริงไหม ?

     คำตอบ คือ ช่วยได้จริงค่ะ การเต้นถือเป็นการ ออกกำลังกาย ที่ได้ขยับร่างกายแทบทุกส่วน เหมาะกับคนที่อยากเบิร์นเอาไขมันส่วนเกินในร่างกายออกไป ไม่ว่าจะเป็นต้นแขน ต้นขา สะโพก เอว หน้าท้อง แถมยังเป็นการ ออกกำลังกาย แบบคาร์ดิโอที่ช่วยบริหารกล้ามเนื้อหัวใจไปด้วย

     มีงานวิจัยใน Journal of Physiological Anthropology พบว่า การ ออกกำลังกาย ด้วย "การเต้น" สามารถช่วยลดน้ำหนัก และมี Aerobic Power เพิ่มขึ้นได้เท่า ๆ กับการปั่นจักรยาน และการวิ่งจ็อกกิ้ง

 

          เต้นแบบไหนเผาผลาญได้เยอะที่สุด?

1. เต้นซุมบ้า ( Zumba )

     ซุมบ้าเป็นการเต้นสไตล์ลาตินอเมริกา ใช้การเต้นเป็นจังหวะช้า และเร็วสลับกัน เน้นเพลงที่เร้าใจ และมีท่าเต้นที่ไม่ยากจนเกินไป สามารถเผาผลาญแคลอรีได้มากกว่าการเต้นแอโรบิคแบบทั่วไป ผู้เต้นจะรู้สึกสนุกสนานมากกว่าการออกกำลังกายแบบทั่วไป และผู้เต้นไม่จำเป็นต้องมีทักษะ หรือพื้นฐานในการเต้นมาก่อนก็สามารถเต้นได้ การเต้นซุมบ้า 60 นาที สามารถเผาผลาญได้ประมาณ 360-370 แคลอรี่

 

2. เต้น Pole Dance

     เป็นการเต้น ออกกำลังกาย แนวเซ็กซี่ที่ต้องออกแรงเยอะมาก ๆ ต้องใช้ทั้งกำลัง ความยืดหยุ่น และกล้ามเนื้อร่างกายที่มีความอดทน ไม่ใช่ว่าเต้นคลาสเดียวแล้วจะทำได้เลย แต่ต้องฝึกทำหลาย ๆ ครั้ง จึงจะสามารถทำได้ นอกจากช่วยเผาผลาญพลังงานโดยรวมได้ดีแล้ว ยังช่วยให้มีรูปร่างส่วนเว้าส่วนโค้งที่ชัดเจนมากขึ้นด้วย มากกว่าการเต้นแบบอื่น ๆ ซะอีก การเต้นโพลแดนซ์ 60 นาที สามารถเผาผลาญได้ประมาณ 250-500 แคลอรี่

 

3. เต้นฮิปฮอป

     ฮิปฮอปเป็นการเต้นแนวสตรีทแดนซ์ ได้รับความนิยมมากในสหรัฐอเมริกา และแพร่ขยายไปทั่วโลก จุดเด่นคือเป็นการเต้นที่ดูแข็งแรง มีพลัง ใช้จังหวะเพลงที่เร็วปานกลางถึงเร็วมาก ผู้เต้นจะได้เคลื่อนไหวร่างกายไปทุกสัดส่วน ทั้งกระตุกร่างกาย ย่อขา โยกตัวขึ้นลง และกระโดดไปตามจังหวะเพลง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างจริงจัง การเต้นฮิปฮอป 60 นาที สามารถเผาผลาญได้ประมาณ 370-610 แคลอรี

 

4. เต้น Cover Dance

     คัฟเวอร์แดนซ์เป็นการเต้นเลียนแบบวงศิลปิน K-POP หรือเต้นคัฟเวอร์ศิลปินเกาหลี บอยแบนด์ เกิร์ลกรุ๊ป การเต้นสไตล์นี้เป็นการผสมผสานการเต้นหลากหลายแบบเข้าไว้ด้วยกัน จะมีความสนุกในการได้เลียนแบบท่าเต้นให้ได้เหมือนเป๊ะสุด ๆ ยิ่งใครเป็นติ่งเกาหลี และชื่นชอบศิลปินวงนั้น ๆ ก็จะยิ่งอิน ยิ่งเต้นออกสเตปชัดเจน ช่วยเผาผลาญพลังงานโดยรวมได้ดีไม่แพ้การเต้นแบบอื่น ๆ การเต้นคัฟเวอร์แดนซ์ 60 นาที สามารถเผาผลาญได้ประมาณ 300-600 แคลอรี

 

5. Piloxing Dance

     ไพล็อกซิ่งเป็นการเต้นที่ผสมผสานระหว่าง Pilates และ Boxing เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้การเต้นประเภทนี้มีท่าทางที่ลื่นไหล ดูเซ็กซี่ และดูมีพลังไปพร้อมกัน การเต้นแนวนี้ต้องใช้พลังเยอะ เน้นคาร์ดิโอจากท่าทางการต่อยมวย แถมยังได้ความยืดหยุ่น และเสริมสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อด้วยท่าพิลาทิสต่าง ๆ เหมาะกับคนที่ต้องการลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน ช่วยเบิร์นไขมันและสร้างกล้ามเนื้อไปในตัว

 

     การเต้น ออกกำลังกาย ถือเป็นการเผาผลาญพลังงานได้ดีมาก ยิ่งเต้นเพลงที่เร็วยิ่งทำให้เสียเหงื่อเยอะขึ้น ทุกคนสามารถเต้นได้แบบไม่มีการแบ่งแยกเพศ อายุ หรืออะไรก็ตาม มันคือความสนุกสนานที่ทุกคนสามารถทำได้ค่ะ

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

วิธีลดความเหนื่อยล้า หลัง ออกกำลังกาย

การออกกำลังกาย ตามรูปร่าง



บทความที่น่าสนใจ

ฟิตเนสสุดแจ่ม ย่านพระอาทิตย์
ข้อห้าม การเข้า ฟิตเนส ( Fitness ) ที่ทำให้ หุ่นไม่เฟิร์ม